2013 12-03 TNSC Press Release

4
1 | Page สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออกฯ) PRESS RELEASE สภาผู้ส่งออกฯ เสนอยุทธศาสตร์ปรับโครงสร้าง เพื ่อแก้ไขปัญหาการส่งออกอย่างยั ่งยืน 3 ธันวาคม 2556 - (11.00 น.ห้องประชุมสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย) สภาผู้ส่งออกฯ ระบุมูลค่าการส่งออกไทยเดือนตุลาคม 2556 มีมูลค่า 19,393.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.67 ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 603,082.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.94 จากตัวเลขการส่งออกรวมของไทยในระยะ 10 เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ จึงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตัวเลขการ ส่งออกรวมของไทยทั้งปี 2556 น่าจะเติบโตได้เพียง 0.5% เท่านั้น สาหรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้ชัดจาก อุปสงค์ภาคครัวเรือนของสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวดีขึ้น เศรษฐกิจสหภาพยุโรปมี แนวโน้มฟื้นตัว เศรษฐกิจจีนและเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับป2556 แม้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ในภาพรวมเชื่อว่าจะมีทิศทาง เป็นบวก ด้วยปัจจัยดังกล่าวข้างต้น สภาผู้ส่งออกฯ จึงคาดการณ์การส่งออกปี 2557 เติบโตที่ 5% อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมในปี 2557 จะปรับตัวไปในทิศทางทดีขึ้น แต่การฟื้นตัวอย่างช้าๆของสภาวะเศรษฐกิจโลกนั้น ไม่ได้ทาให้ความ ต้องการสินค้าในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการกระตุ้นตัวเลขการ ส่งออกด้าน Demand side ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียง พอที่จะผลักยอดส่งออกของไทยให้เติบโตได้ตามเป้า สิ่งที่ต้องหันมาให้ ความสาคัญในขณะนี้คือการปรับโครงสร้างภาคการส่งออกซึ่งเป็นด้าน Supply side ให้สามารถแข่งขันได้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง ดังนั้น สภาผู้ส่งออกฯ จึงได้จัดทาร่างยุทธศาสตร์ส่งออกไทยซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ ปรับโครงสร้างการส่งออกให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันได้ และ ได้นาเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที

Transcript of 2013 12-03 TNSC Press Release

Page 1: 2013 12-03 TNSC Press Release

1 | P a g e สภาผูส่้งสินคา้ทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผูส่้งออกฯ)

PRESS RELEASE

สภาผูส่้งออกฯ เสนอยุทธศาสตรป์รบัโครงสรา้ง

เพื่อแกไ้ขปัญหาการส่งออกอย่างยั่งยืน

3 ธันวาคม 2556 - (11.00 น.ห้องประชุมสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย)

สภาผู้ส่งออกฯ ระบุมูลค่าการส่งออกไทยเดือนตุลาคม 2556 มีมูลค่า 19,393.5

ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.67 ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 603,082.4 ล้านบาท

เพิ่มขึ้น 0.94 จากตัวเลขการส่งออกรวมของไทยในระยะ 10 เดือนที่ผ่านมา

ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ จึงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตัวเลขการ

ส่งออกรวมของไทยทั้งป ี2556 น่าจะเติบโตได้เพียง 0.5% เท่านั้น

ส าหรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้ชัดจาก

อุปสงค์ภาคครัวเรือนของสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวดีขึ้น เศรษฐกิจสหภาพยุโรปมี

แนวโน้มฟ้ืนตัว เศรษฐกิจจีนและเอเชียมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ใกล้เคียงกับปี

2556 แม้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ในภาพรวมเชื่อว่าจะมีทิศทาง

เป็นบวก ด้วยปัจจัยดังกล่าวข้างต้น สภาผู้ส่งออกฯ จึงคาดการณ์การส่งออกปี

2557 เติบโตที่ 5%

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมในปี 2557 จะปรับตัวไปในทิศทางที่

ดีขึ้น แต่การฟื้นตัวอย่างช้าๆของสภาวะเศรษฐกิจโลกนั้น ไม่ได้ท าให้ความ

ต้องการสินค้าในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการกระตุ้นตัวเลขการ

ส่งออกด้าน Demand side ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียง

พอที่จะผลักยอดส่งออกของไทยให้เติบโตได้ตามเป้า สิ่งที่ต้องหันมาให้

ความส าคัญในขณะนี้คือการปรับโครงสร้างภาคการส่งออกซึ่งเป็นด้าน Supply

side ให้สามารถแข่งขันได้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง

ดังน้ัน สภาผู้ส่งออกฯ จึงได้จัดท าร่างยุทธศาสตร์ส่งออกไทยซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ

ปรับโครงสร้างการส่งออกให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันได้ และ

ได้น าเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่

Page 2: 2013 12-03 TNSC Press Release

2 | P a g e สภาผูส่้งสินคา้ทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผูส่้งออกฯ)

11 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมา และเมื่อสถานการณ์การเมืองภายในประเทศสงบลง สภา

ผู้ส่งออกฯ จะน าเสนอยุทธศาสตร์ดังกล่าวต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและกระทรวงที่

เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งผลักดันการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้ทุกฝ่าย

ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ

ส าหรับเนื้อหาในยุทธศาสตร์การพัฒนาการส่งออกไทย (TNSC’s Export

Strategy Model) นั้นมุ่งยกระดบัการคา้ระหวา่งประเทศของไทยให้เป็นศูนย์กลาง

ทางการค้า (Trading Nation) และการผลิตที่สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเน้นการเขื่อม

โยง ระหว่างอุตสาหกรรมต้นน้ า กลางน้ าและปลายน้ า ในระดับภูมิภาคเพื่อการ

ส่งออก ซึ่งร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้มีการเสนอแผนรายอุตสาหกรรม ส าหรับ 13

อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมยางพาราและผลิตภัณฑ์, เฟอร์นิเจอร์, ยาน

ยนต์และชิ้ นส่ วนยานยนต์ , เครื่ อ งส าอาง , อัญมณีและ เครื่ อ งประดับ ,

เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม, กระดาษและบรรรจุ

ภัณฑ์กระดาษ, พลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก, เครื่องจักรและอุปกรณ์, สินค้า

เกษตร(ข้าว น้ าตาล มันส าปะหลัง), อาหาร, เครื่องปรับอากาศและเครื่องท าความ

เย็น นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการปรับโครงสร้างในภาคการส่งออกของไทย ตั้งแต่

การปรับระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพ้ืนฐาน การอ านวยความสะดวกทางการค้า

และกฎระเบียบต่างๆ การพัฒนาบุคลากรด้านการส่งออกและแรงงาน รวมทั้ง

ยกระดับการวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทยให้

เติบโตได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม สภาผู้ส่งออกฯ มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองและการ

ประท้วงซึ่งกินเวลานานมากขึ้นและยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในปัจจุบัน แม้ว่าจะ

ไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการส่งออกในขณะนี้ เพราะสัญญาซื้อขายต่างๆ ได้ตก

ลงไว้ก่อนหน้าและสามารถทยอยส่งมอบสินค้าได้ตามก าหนด เพราะไม่มีการปิด

ท่าเรือหรือท่าอากาศยาน แต่สถานการณ์ที่ลากยาวจะกลายเป็นสาเหตุที่ท าให้ผู้

ซื้อในต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น และไม่เข้ามาเจรจาธุรกิจในประเทศไทย ซึ่ง

อาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าในช่วงไตรมาส 1-2 ของปีหน้า จึงอยาก

เสนอให้รัฐบาลและผู้ประท้วงรีบด าเนินการเพ่ือหาข้อสรุปร่วมกันโดยเร็วที่สุด

Page 3: 2013 12-03 TNSC Press Release

3 | P a g e สภาผูส่้งสินคา้ทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผูส่้งออกฯ)

อน่ึง สภาผู้ส่งออกฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วม Asian Shippers’ Meeting

และ European Shippers’ Council ณ จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 23-25

พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากเอเชียและสหภาพยุโรปเข้าร่วม

ประชุมและได้หารือเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าและการขนส่งสินค้าระหว่าง

ประเทศ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและมีความเห็นร่วมกันเกี่ยวกับบทบาท

ของภาครัฐในการตอบสนองต่อกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้น และการรวมกลุ่มของสาย

เรือขนาดใหญ่ ดังต่อไปน้ี

มาตรการชัง่น้ าหนกัตูส้นิคา้ (Container Weight Verification Rules) โดย

International Maritime Organization (IMO) เพื่อแก้ไขปัญหาความ

ปลอดภัยทางการขนส่งทางทะเลด้วยตู้คอนเทนเนอร์ ที่ประชุมได้มีข้อสรุป

ว่าแนวทางที่เหมาะสมคือต้องก าหนดมาตรการและขั้นตอนการแจ้งข้อมูล

และยืนยันน้ าหนักตู้สินค้าที่สอดคล้องกับเวลาปฏิบัติงานจริง (Timely

Declaration) และต้องก าหนดแนวทางที่ชัดเจนในการใช้ข้อมูลน้ าหนักตู้

สินค้าดังกล่าวไปใช้ในการวางแผนบรรจุตู้สินค้าบนเรือ (Stowage Plan)

นอกจากนี้มาตรการที่ออกมาควรค านึงถึงการบรรจุตู้สินค้าบนเรือที่

เหมาะสม (Proper Stowage) การกระทบของตู้สินค้าบนเรือ (Lashing of

Containers) และการซอ่มบ ารงุเรือสินค้า (Maintenance of vessels) เป็น

หลัก

การรวมตัวของสายเรือขนาดใหญ่ 3 สาย ได้แก่ Maersk Line, MSC และ

CMA ภายใต้ชื่อ P3 Network ซึ่งอาจน าไปสู่การเข้าควบคุมตลาดของสาย

เรือท้ัง 3 สาย ลดการแข่งขันและการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ และอาจ

ก่อให้เกิดการรวมตัวขึ้นค่าระวางหรือค่าใช้จ่ายกับผู้น าเข้า-ส่งออก ดังนั้น

จึงเป็นหน้าที่ของผู้ส่งออกและภาครัฐในแต่ละประเทศที่จะต้องจับตาดู

เง่ือนไขข้อตกลงที่จะตามมาในอนาคต เพื่อมิให้เกิดการบิดเบือนของกลไก

ตลาดโดยการเป็นผู้ควบคุมตลาด อันจะส่งผลกระทบในการลดทอนอ านาจ

ต่อรอง และการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรมในทางธุรกิจ

Page 4: 2013 12-03 TNSC Press Release

4 | P a g e สภาผูส่้งสินคา้ทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผูส่้งออกฯ)

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการรวมกลุ่ม Shippers’ Council ในอาเซียน

เพื่อรองรับการเปิด AEC ในปี 2015 ซึ่งสภาผู้ส่งออกฯ รับหน้าที่ในการเชิญ

Vietnam National Shippers’ Council เข้ามาร่วมกลุ่มในการประชุมครั้งต่อไป

และจะมีการผลักดันให้ประเทศพม่า กัมพูชา และลาว มีการจัดตั้ง Shippers’

Council ขึ้นภายในประเทศ เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนามาตรฐานด้านโลจิ

สติกส์ และการอ านวยความสะดวกทางการค้าร่วมกันในระดับภูมิภาคอีกทางหนึ่ง.

***********